สวนนงนุชพัทยา เข้าร่วมงาน “BLOEMENCORSO BOLLENSTREEK 2016”

สวนนงนุชพัทยา เข้าร่วมงาน “BLOEMENCORSO BOLLENSTREEK 2016”

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 เม.ย. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,983 view

 

สวนนงนุชพัทยา เข้าร่วมงาน “BLOEMENCORSO  BOLLENSTREEK 2016

เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๙ สื่อท้องถิ่นได้ลงข่าวเกี่ยวกับการเข้าร่วมขบวนพาเหรดดอกไม้ Bloemencorso Bollenstreek 2016 ของคณะสวนนงนุช ซึ่งได้เข้ามาเข้าร่วมงานเป็นปีแรก หลังจากที่ได้สร้างชื่อเสียงในงาน  Chelsea Flower Show ที่สหราชอาณาจักรและได้รับรางวัลต่อเนื่องมาเป็นเวลา ๖ ปี http://nos.nl/artikel/2100956-thaise-invasie-bij-nederlands-bloemencorso.html (ดังแนบ)

 

คณะสวนนงนุชฯ เดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๙ โดยในวันเดียวกันเอกอัครราชทูตฯ ได้นำนายกัมพล ตันสัจจา ผอ. สวนนงนุชฯ พร้อมด้วยผู้ติดตามอีก ๒ ท่าน เข้าพบนาย Jan Th. Versteeg, Grand Master of the Royal Household ที่พระราชวัง Noordeinde เพื่อขอ   ความอนุเคราะห์ในการนำพวงมาลัยและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่สวนนงนุชฯ จัดเตรียมมา ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ โดยนาย Versteeg แจ้งว่า ตนได้กราบบังคมทูลเรื่องนี้ต่อสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์แล้ว และขออัญเชิญพระราชกระแสขอบใจแก่คณะ

นายกัมพลฯ พร้อมด้วยคณะจากสวนนงนุชฯ เดินทางมาประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อเข้าร่วมงาน Bloemencorso Bollensstreek 2016 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานพาเหรดดอกไม้ระดับโลก มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า ๑.๗ ล้านคน ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๔๗ เพื่อให้ชาวดัตช์ได้เฉลิมฉลองหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาจากสงครามโลก และเป็นงานเดียวที่จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีรถดอกไม้เข้าร่วมขบวนพาเหรดกว่า ๒๐ คันในแต่ละปี มีขนาดขบวนยาวถึง ๒.๕ กิโลเมตร ขบวนพาเหรดจะเริ่มจากเมืองนอร์ดไวก์ (Noordwijk) ถึงฮาเล็ม (Haarlem) รวมระยะทาง ๔๐ กิโลเมตร โดยธีมของงานจะเปลี่ยนไปในแต่ละปี แต่ที่เหมือนกันคือ ดอกไม้ที่นำมาประดับขบวนรถจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับประเภทหัวทั้งหมด เช่น ดอกทิวลิป ดอกไฮยาซินธ์ และดอกดัฟโฟดิล ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ

 

 

ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๙ เอกอัครราชทูตฯ เดินทางไปเมืองฮาเล็มเพื่อเยี่ยมชมการจัดเตรียมรถที่จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดดอกไม้ของสวนนงนุชฯ และให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่มากับคณะ สรุปได้ดังนี้

1.   มุมมอง ชาวฮอลแลนด์ ที่มีต่อประเทศไทย ด้านวัฒนธรรม และด้านการท่องเที่ยว เป็นอย่างไร

ชาวดัตช์นิยมไปท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอันดับ ๒ รองจากสหรัฐอเมริกา โดยในปี ๒๕๕๘ มีชาวดัตช์เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คน โดยเห็นว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามจำนวนมาก

2.   การมาครั้งนี้ของไทยที่ดึงเอาความสวยงามศิลปวัฒนธรรมไทยมาแสดงจะสร้างความประทับใจแก่นานาชาติอย่างไรบ้าง

Theme ของงานปีนี้คือ Flowers & fashion สวนนงนุชฯ ซึ่งมาเข้าร่วมงานดังกล่าวได้นำชุดไทยตามแบบพระราชนิยม ๒ แบบ ได้แก่ ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ์ มาจัดแสดงร่วมกับรถดอกไม้ที่ได้รับ  การออกแบบอย่างสวยงามและแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งนี้ ผ้าไทยและชุดไทยนี้เป็นที่ชื่นชอบของต่างชาติอยู่แล้ว เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเยือนประเทศต่าง ๆ ก็จะทรงฉลองพระองค์ชุดไทยหรือผ้าไทยเสมอ และได้สร้างความประทับใจแก่ชาวต่างชาติจำนวนมากจนผ้าไหมไทยเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ศิลปะการจัดดอกไม้ของไทยมีความประณีตสูง และมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ ดังจะเห็นได้จาก การร้อยมาลัยและการจัดพานพุ่ม การนำผลงานการจัดดอกไม้ตามแบบไทยมาขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อมาร่วมขบวนพาเหรดครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นการผสมผสานความสามารถของช่างฝีมือไทยกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว อันเป็นการเผยแพร่ความสามารถของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวดัตช์และนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี

3.   ผลงานของไทยจะส่งผลกระตุ้นการเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติมากน้อยแค่ไหน

การที่มีหน่วยงานของไทย ไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน มาเข้าร่วมกิจกรรมด้านวัฒธรรมต่าง ๆ ในต่างประเทศย่อมเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปซึ่งให้ความสนใจกับประเทศไทยอยู่เป็นทุนเดิม ดังในกรณีนี้ หากต่างชาติมาเห็นรถดอกไม้ไทยในขบวนพาเหรดและชอบใจ อาจสนใจไปท่องเที่ยวประเทศไทยรวมทั้งไปเยี่ยมชมสวนนงนุช เมืองพัทยาด้วย

4.   อยากให้ท่านทูต พูดแทนคนไทย  ถึงความภาคภูมิใจที่ได้ชื่นชมงานนี้

ผมว่าฝีมือของคนไทยไม่แพ้ใครในงานนี้ ในฐานะเอกอัครราชทูตไทยประจำเนเธอร์แลนด์ การได้มาร่วมงานใหญ่ประจำปีของชาวดัตช์ และเห็นรถดอกไม้ที่สร้างขึ้นโดยฝีมือของคนไทย นับเป็นความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้เห็นคนไทยแสดงความจงรักภักดีและความผูกพันต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในผลงาน ในปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเป็นปีที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนพรรษาครบ ๗ รอบ ด้วย ทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างมาก ซึ่งผมคิดว่าคนไทยในเนเธอร์แลนด์ที่ได้เห็นคงรู้สึกอย่างเดียวกัน

5.   การเข้าร่วมประกวดของไทยในเทศกาลนี้ ท่านคิดว่าจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยยังไงบ้าง รวมทั้งในแง่ของการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน

รัฐบาลชุดปัจจุบันมีแนวคิดการดำเนินนโยบายแบบการทูตประชารัฐ คือการร่วมมือกับทุกภาคส่วนดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลอย่างบูรณาการ ทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน การเข้าร่วมงานของเอกชนไทยในต่างประเทศในลักษณะนี้เป็นการช่วยรัฐบาล ในการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษา และเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเชิงบวก และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการทูตวัฒนธรรมด้วย ทั้งนี้ ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ย่อมนำไปสู่การดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ